ก่อนที่สถาบันการเงินจะให้การอนุมัติสินเชื่อให้กับเรา เราจะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติการชำระหนี้หรือเครดิตบูโรก่อน โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บรวบรวมที่บริษัทข้อมูลเครดิตเเห่งชาติ ที่เป็นสถาบันที่รวบรวมข้อมูลการชำระหนี้ของผู้ขอสินเชื่อ เพื่อให้สถาบันการเงินแต่ละแห่งได้ข้อมูลเพียงพอในการพิจารณาการให้สินเชื่อ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการกู้เงิน ควรชำระหนี้สินเชื่อที่มีอยู่ตรงตามกำหนดชำระก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อ
- มีความสามารถในการชำระหนี้อย่างเพียงพอ สถาบันการเงินส่วนใหญ่จะประเมินความสามารถในการชำระหนี้ก่อนที่จะให้สินเชื่อ และจะคำนวณภาระหนี้ที่ต้องชำระต่อเดือน โดยพิจารณาจากสัดส่วนของหนี้ต่อรายได้
เช่น ถ้าการคำนวณพบว่าภาระหนี้สูงถึง 120% นั่นหมายความว่า เรามีหนี้มากกว่ารายได้ที่มีอยู่ซึ่งอาจทำให้เงินที่เหลือหลังจากชำระหนี้น้อยลง หรือถ้าภาระหนี้อยู่ที่ 90% นั่นหมายความว่าเงินที่เหลือหลังจากชำระหนี้น้อยมาก ซึ่งอาจไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ถ้าได้รับสินเชื่อแล้วไม่สามารถชำระหนี้ได้ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้สูงกับสถาบันการเงิน
***อัตราส่วนหนี้ต่อรายได้ (DTI) ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ใช้พิจารณาจะแตกต่างไปตามเกณฑ์ของแต่ละสถาบันการเงิน
- ศึกษาเกณฑ์และคุณสมบัติพื้นฐานในการอนุมัติสินเชื่อของแต่ละสถาบัน ควรศึกษาเกณฑ์และคุณสมบัติพื้นฐานว่าผู้ขอสินเชื่อมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ของสถาบันการเงินหรือไม่
- เตรียมเอกสารที่จำเป็นในการขอสินเชื่อให้ครบถ้วน เมื่อตัดสินใจจะยื่นขอสินเชื่อ นอกจากการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว เรายังต้องเตรียมเอกสารที่สำคัญตามที่สถาบันการเงินต้องการ เพื่อช่วยให้กระบวนการพิจารณาเร็วขึ้น
ดังนั้น จากเคล็ดลับ 3 ข้อนี้ เราสามารถมั่นใจได้ว่าสถาบันการเงินได้รับข้อมูลที่จำเป็นในการพิจารณาการขอสินเชื่ออย่างครบถ้วน ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการพิจารณาเร็วขึ้นและเสถียรยิ่งขึ้น