สินเชื่อเงินสดและสินเชื่ออเนกประสงค์เป็นสินเชื่อที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยสามารถเลือกว่าจะต้องการกู้แบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่ สินเชื่อแบบนี้เป็นการให้เงินสดโดยที่ผู้กู้สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการของตนเอง เช่น การศึกษาบุตร การชำระหนี้ การศึกษาต่อ การสร้างบ้านหรือการท่องเที่ยว เป็นต้น อัตราดอกเบี้ยที่คิดจะต่ำและมีระยะเวลาในการผ่อนชำระที่นานขึ้น
ในการกู้แบบไม่มีการค้ำประกันหมายถึงผู้กู้สามารถกู้ได้ในวงเงินไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือน ส่วนการกู้แบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกันจะต้องประเมินความสามารถในการชำระคืนก่อนว่าสามารถชำระคืนได้ตามเวลาที่ทางธนาคารกำหนดหรือไม่ เพราะการชำระช้าอาจจะมีผลกระทบต่อดอกเบี้ย โดยเฉพาะในการกู้จากบัตรกดเงินสด
สินเชื่อที่น่าสนใจในปัจจุบัน เช่น สินเชื่ออเนกประสงค์สำหรับข้าราชการของธนาคารกรุงไทย เปิดโอกาสทางการเงินให้กับข้าราชการที่ต้องการใช้เงินในภารกิจต่าง ๆ หรือต้องการสานฝัน เช่น ศึกษาต่อ ส่งเสริมการศึกษาบุตร เงินกู้เพื่อการท่องเที่ยว ซื้อรถยนต์ หรือสร้างบ้าน เป็นต้น สามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุด 20 ปี โดยมีรายได้ต่อเดือนเริ่มต้นที่ 13,000 บาท ที่สามารถขอกู้ได้
สินเชื่อเงินสดเป็นการขอเงินก้อนจากสถาบันการเงินเพื่อใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น ชำระหนี้บัตรเครดิต ซื้อของใช้จำเป็น หรือท่องเที่ยว เป็นต้น สินเชื่ออเนกประสงค์มีวงเงินกู้สูงและระยะเวลาผ่อนชำระยาวนาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้
1. สินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน: ผู้กู้ต้องนำหลักทรัพย์มาค้ำประกัน เช่น บ้าน รถยนต์ หรือที่ดิน สินเชื่อแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ให้สินเชื่อ และช่วยให้ผู้ขอสินเชื่อได้วงเงินกู้สูงและดอกเบี้ยต่ำ ข้อเสียคือผู้ขอสินเชื่อต้องโอนกรรมสิทธิ์ของหลักประกันให้แก่ผู้ให้สินเชื่อ และหากไม่ชำระหนี้ตามข้อตกลง ผู้ให้สินเชื่อจะยึดหลักประกันมาขาย เพื่อชำระหนี้ที่ค้าง
2. สินเชื่อแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน: ไม่ต้องนำสิ่งของมีค่ามาใช้เป็นหลักประกัน แต่จะพิจารณาจากสลิปเงินเดือน, อายุการทำงาน, หน้าที่การทำงาน, และประวัติการชำระหนี้ย้อนหลังของผู้ขอสินเชื่อ สินเชื่อประเภทนี้มักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ผู้กู้ไม่ต้องรับความเสี่ยงในกรณีที่ผิดนัดชำระหนี้